Custom Search

วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี



พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก (THE JEATH WAR MUSEUM) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ข้อมูล

จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เชลยศึกที่เสียชีวิตเพราะการก่อสร้างทางรถไฟ สายมรณะกว่า 16,000 คน ตั้งอยู่ในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ตำบลบ้านใต้ อยู่ห่างจากถนนแสงชูโต ประมาณ 300 เมตร ตัวอาคารสร้างเป็นกระท่อมไม้ไผ่เลียนแบบค่ายเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมภาพถ่าย ภาพเขียน และบทความที่แสดงถึงความเป็นอยู่ของเชลยศึก ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธปืนและลูกระเบิดในสมัยนั้นเพื่อสะท้อนให้เห็นบทเรียนอันน่าสะพรึงกลัว ของสงคราม

เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 08.30–16.30 น. ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 034-511263




การเดินทาง

ก่อนเข้าเมืองกาญจนบุรี จะมีป้ายบอกตรงสี่แยกไฟแดง ไปทางศาลหลักเมืองกาญจนบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายให้ขับตรงมาตลอด (สังเกตให้ดี จะอยู่ก่อนทางเข้าวัดใต้) อยู่ห่างจากถนนแสงชูโต ประมาณ 300 เมตร


อุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ/ท่องเที่ยวป่าเขา ไทยคึกคัก




อุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ ตั้งอยู่ใน ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ความเป็นมา

อุทยาน ประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ เป็นความริเริ่มของกองทัพบก โดย พลเอกสุรยุทธ์จุลานนท์ ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ซึ่งได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป จัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ทั้งนี้เนื่องจากขณะที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ประธาน คณะทำงานคณะส่งเสริมการท่องเที่ยวของกองทัพบก ได้นำคณะทำงานฯ สำรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ใน จ.กาญจนบุรี และพบว่าพื้นที่ที่เคยเป็นสมรภูมิรบในสงครามเก้าทัพ ยังคงสภาพเดิม เหมาะสำหรับศึกษาหลักการใช้ภูมิประเทศ และเส้นทางเดินทัพ ตลอดจนการดำเนินกลยุทธ์ ซึ่งทำให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหา สุรสิงหนาท ผู้ทรงเป็นแม่ทัพสามารถรบชนะทัพข้าศึก ซึ่งมีกำลังพลมากกว่าได้อย่างราบคาบ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงกระทำพิธีเปิดอุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2543

ภายในอาคารจะเป็นตู้จำลองเหตุการณ์และโต๊ะทรายแสดงภูมิประเทศจำลองเส้นทาง การเดินทัพของข้าศึก ภายในยังมีสื่อวิดีทัศน์นำเสนอเกี่ยวกับสงครามเก้าทัพ นอกจากนี้ยังมีหอสังเกตการณ์เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจประวัติศาสตร์เข้าใจ การเลือกใช้ภูมิประเทศในการเดินทัพ และจุดสกัดกั้นทัพพม่าได้ชัดเจนขึ้น

เปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. (ไม่เสียค่าเข้าชม)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไดที่ ฝ่ายยุทธการจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี โทร. 0-3458-9233-5 ต่อ 51015









การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 (กาญจนบุรี-เขื่อนศรีนครินทร์) ประมาณกิโลเมตรที่ 24 (จากสี่แยกแก่งเสี้ยนถึงทางแยกอุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ เป็นระยะทางประมาณ 34 กม.) จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 1 กม. ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์สงครามเก้าทัพ


กองถ่ายทำภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช



พร้อมมิตรฟิล์มสตูดิโอ กองถ่ายทำภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ข้อมูล

เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ที่มีระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 4 ปี จากสภาพพื้นที่ป่ารกกว่า 2,000 ไร่ ดำเนินการถ่ายทำในบริเวณกองพลทหารราบที่ ๙ ค่ายสุรสีห์ ผู้ที่เช้าชมสามารถชมความสวยงามอลังการของฉากต่าง ๆ จากในภาพยนตร์ที่ท่านจะได้สัมผัสจริง อาทิ หมู่บ้านโยเดีย กุฏิมหาเถรคันฉ่อง ห้องเก็บศาตราวุทธ โบสถ์วัดมหาเถรคันฉ่อง กำแพงเมืองหงสาวดี อาคารแสดงนิทรรศการ สีหสาสนบัลลังก์ คุกใต้ดิน ตำหนักพระนเรศวร สรรเพชรปราสาท กำแพงเมืองอโยธยา หมู่บ้านอโยธยา ตำหนักบุเรงนอง ฯ แต่ละจุดจะมีจอพลาสมาบรรยายประวัติศาสตร์ภูมิหลังอธิบายฉากในการถ่ายทำ ภาพยนตร์ และในสถานที่สำคัญจะมีวิทยากรประจำจุดต่างๆ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมกิจกรรมสนุกต่าง ๆ อาทิ การแต่งกายชุดประวัติศาสตร์ ขี่ม้า ขี่ช้าง นั่งเกวียน ให้อาหารช้าง และมีจุดจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว

ทางพร้อมมิตรฟิล์มสตูดิโอ ยังมีโครงการที่สร้างเพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง อาทิ

การสร้างโรงถ่ายภาพยนต์ระดับมาตรฐานโลก จำนวน 4 สตูดิโอ

การสร้างศูนย์ฝึกอบรม สัมมนา /ค่ายลูกเสือ/ค่ายเยาวชน พร้อมฐานผจญภัย และลานกิจกรรม

การสร้างบ้านพักลักษณะเรือนไทยโบราณ ในรูปแบบโฮมสเตย์

การสร้างพิพิธภัณฑ์หุ่นขึ้ผึ้งของศิลปินแห่งชาติสาขาภาพยนต์

การเข้าชมใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. ในแต่ละจุดต้องเดินชมเป็นช่วง ๆ อากาศจะค่อนข้างร้อนให้เตรียมอุปกรณ์กันแดดไปด้วย หลังจากชมสีหสาสนบัลลังก์แล้วจะมีรถไฟฟ้าให้บริการในการชมต่อไป

เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 10.00-17.00 น.

อัตราค่าบริการ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) 50 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานกรุงเทพ 52/25 หมู่ 13 ถ.กรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง กรุงเทพฯ 10250

โทร. 0-2736-2300 แฟ๊กซ์. 0-2736-2304

สำนักงานกาญจนบุรี 0-3453-2057-8 แฟ๊กซ์. 0-3453-2056

เว็บไซต์ http;//www.prommitrfilmstudio.com




















การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 (กาญจนบุรี-เขื่อนศรีนครินทร์) ขับมาประมาณ 10.5 กม. จะพบกับสี่แยกลาดหญ้า ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3086 ขับมาประมาณ 2.5 กม. จะพบป้ายพร้อมมิตรฟิล์มสตูดิโอ อยู่ทางด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายขับเข้ามาอีกประมาณ 2.4 กม. ก็จะพบทางเข้า พร้อมมิตรฟิล์มสตูดิโอ



อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ จกาญจนบุรี




อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

อุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอสังขละบุรีและอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้รับการประกาศให้เป็น อุทยานแห่งชาติ โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 108 ตอนที่ 195 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 เป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 67 ของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 1,497 ตร.กม. (935,625 ไร่) อยู่ใน อ.สังขละ และ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติ 1 ใน 5 แห่ง ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530

ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมอยู่ที่ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ขุนเขาที่ปกคลุมไปด้วยทะเลหมอก ผืนน้ำสงบนิ่งกว้างใหญ่เหนือเขื่อนวชิราลงกรณ์ และน้ำตกที่งดงาม







ภูมิประเทศ

สภาพภูมิประเทศอยู่ในแนวเทือกเขาตะนาวศรี เป็นเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน มีความสูงเฉลี่ย 950 เมตร จากระดับน้ำทะเลและยอดี่สูงที่สุด 1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นต้นน้ำของแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำรันตี

สภาพป่าประกอบไปด้วย ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ยาง ไม้แดง ไม้ประดู่ ตะเคียนทอง ตะคร้อ เต็ง รัง และไม้พื้นล่างจำพวกไผ่ชนิดต่าง ๆ

ภูมิอากาศ

อยู่ในเขตโซนร้อนที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ และจากระดับน้ำทะเลอันดามัน แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือฤดูฝนมีฝนชุกช่วงเดือนกรกฏาคม-สิงหาคม ฤดูหนาวมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 10 องศาเซลเซียส และฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส

พืชพรรณและสัตว์ป่า

สัตว์ป่าที่พบในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีประมาณ 268 ชนิดโดยแยกประเภทสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 49 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 19 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 13 ชนิด และนก 187 ชนิด สัตว์ป่าที่พบ ได้แก่ กวาง เก้ง ค่าง ชะนี หมูป่า และนกนานาชนิด

ในส่วนพื้นที่น้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ นอกจากจะใช้กักเก็บน้ำเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าและการเกษตรแล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่สำคัญ เช่น ปลาชะโด ปลายี่สก ปลาแรด และปลากระสูบ

สอบถามรายละเอียดอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตู้ ป.ณ. 15 ปท.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180 โทรศัพท์ 0-3451-9001, 08-1216-8049

หรืองานบริการบ้านพัก สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0-2579-5269, 0-2579-7223 ต่อ 724, 725





สถานที่น่าสนใจใกล้เคียง

- จุดชมวิวป้อมปี่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนเขาแหลม

ข้อมูล เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักหลังจากได้ไปเที่ยวชม อ.สังขละ เนื่องจากสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างมาก ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินในได้อย่างสวยงามในยามเย็น อีกทั้งผู้คนที่ได้ไปพักนิยมลงไปเล่นน้ำในบริเวณตีนเขา เนื่องจากมีบริการเรือแคนนู และห่วงชูชีพ อีกทั้งมีบริการที่พัก ร้านอาหาร จึงทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาพักที่นี่ค่อนข้างมาก ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ

- น้ำตกไดช่องถ่อง

ข้อมูล อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 500 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลงสู่ทะเลสาบเขื่อนแม่กลอง การเข้าชมน้ำตกต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 600 เมตร

- น้ำตกเกริงกระเวีย

ข้อมูล อยู่กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อยู่ติดถนนเยื้องกับทางเข้าน้ำตกไดช่องถ่อง เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีความสาวยงาม และจุดนี้ท่านสามารถพักรถ เข้าสุขา และเป็นจุดรับประทานอาหารได้

- ถ้ำเกริงกะเวีย

ข้อมูล เป็นถ้ำที่อยู่ทางตอนเหนือของบ้านเกริงกะเวีย มี หินงอกหินย้อย และธารน้ำไหลผ่านภายในถ้ำสวยงามมาก มีความลึกประมาณ 300- 400 เมตร อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิ 40 กิโลเมตร

- บึงเกริงกะเวีย

ข้อมูล เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ มีนกทั่วไปและนกปาอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น เป็ดแดง นกกวัก นกอีล้ำ นกยาง นกกระปูด นกจาบคา นกหัวขวาน นกโพระดก นกกก ฯลฯ จึง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจดูนกมาก ทางเข้าอยู่ก่อนถึงน้ำตกเกริงกะเวียเล็กน้อย

- เจดีย์โบอ่อง

ข้อมูล มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญ สร้างอยู่บนเขาเล็กๆ มีบึงใหญ่ล้อมรอบในบริเวณบึงมีบัวนานาชนิด เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไป ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ของทุกปีจะมีประชาชนไปนมัสการเป็นจำนวนมาก

- น้ำตกกะเต็งเจ็ง

ข้อมูล เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีชั้นน้ำตกถึง 23 ชั้น แต่ละชั้นมีความงามแตกต่างกันออกไป ระยะทางจากชั้นแรกถึงชั้นสุดท้ายประมาณ 2 กิโลเมตร ตัวน้ำตกมีแต่ละชั้นยังมองไม่ชัดซักเท่าไร เนื่องจากน้ำตกแต่ละชั้นเป็นน้ำตกสายเล็ก ๆ แต่เหมาะกับการทัศนศึกษาดูสภาพป่าและพืชพันธุ์ธรรมชาติชนิดต่าง การไปชมน้ำตกกะเต็งเจ็ง จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกชั้นแรก นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายผ่านสายน้ำขึ้นไปตามชั้นต่าง ๆจนถึงชั้นบนสุด ซึ่งท่านสามารถชมทัศนียภาพของอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมได้ ในการเที่ยวชมควรสอบถามเจ้าหน้าที่

นอกจาก นี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำรวจพบใหม่ คือ เขาใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่กางเต็นท์ พักแรม ชมทะเลหมอก ชมทัศียภาพของทิวเขา และอ่างเก็บน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจเพื่อจัดทำเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ในรูปแบบการผจญภัยโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน

แผนที่การเดินทาง

รถยนต์ส่วนบุคคล

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อย และไทรโยคใหญ่ ( หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวงหมายเลข 323 ) ท่านจะพบสามแยก ( ตรงไปไปอำเภอทองผาภูมิ + เขื่อนเขาแหลม ถ้าเลี้ยวขวาไปอำเภอสังขละบุรี ) ให้ท่านเลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี ซึ่งท่านจะผ่าน น้ำตกเกริงกระเวีย+น้ำตกไดช่องถ่อง ประมาณหลักกม.ที่ 36-35 ก่อนถึงสังขละ ก็จะพบ อช.เขื่อนเขาแหลม

รถโดยสารประจำทาง

จากสถานีรถขนส่งกาญจนบุรี ใช้ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 3-5 ชม.รถผ่านที่ทำการอุทยานฯ ได้แก่

- รถโดยสารประจำทาง กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี

- รถโดยสารปรับอากาศ กาญจนบุรี-สังขละบุรี

- รถตู้ปรับอากาศ กาญจนบุรี-สังขละบุรี



สินค้ารวม