Custom Search

วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

ไร่แสงอรุณ อ.เชียงของ เชียงราย‏

ไร่แสงอรุณ เชียงราย


ที่ตั้ง บนทิวเขาเลียบริมแม่น้ำโขงกึ่งกลางระหว่าง เชียงแสนและเชียงของ หรือจากสนามบินเชียงราย ประมาณ 96 กม
ที่อยู่: เลขที่ 2 หมู่ 3 บ้านผากุบ ตำบล ริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย 57140

ไร่แสงอรุณ Rai Saeng Arun

ณ สถานที่แห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัสทัศนียภาพอันตระการตาของแนวเทือกเขาอันซับซ้อน และความยิ่งใหญ่ของลุ่มน้ำโขง ตลอดจนจะได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรที่เรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ ท่านจะได้ชื่นชมวิถีชีวิตของเกษตรกร หรือร่วมมีประสบการณ์ในท้องไร่ ท้องนา เช่น ร่วมทำงานในผืนนา โดยเฉพาะการทำนาในแนวเกษตรอินทรีย์ อีกทั้งจะได้ชมแปลงสวนผักปลอดสารพิษ ซึ่งผลผลิตจากแปลงเกษตร เราจะนำไปปรุงอาหารให้ท่านได้เลือกรับประทานกันแบบสดๆจากไร่ ซึ่งท่านจะสดชื่นกับความหวานหอมของพืชผักปลอดสารพิษที่สดใหม่ ที่เราแทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส ในสังคมเมือง

หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ชนบทซึ่งทอดตัวอยู่ในพื้นที่ราบเชิงเขาเหนือริมฝั่งแม่น้ำโขง ณ หมู่บ้านผากุบ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย อันเป็นพื้นที่รอยต่อชายแดน ระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาชนลาว ไร่แสงอรุณได้ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจที่ต้องการผสมผสาน การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกับรีสอร์ทเพื่อสุขภาพท่ามกลางธรรมชาติที่แสนสวยงาม

ท่านจะได้พบกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมของรีสอร์ทที่พัก ซึ่งจัดสร้างและตกแต่งโดย วัสดุที่เรียบง่ายจากธรรมชาติ โครงสร้างบ้านทำด้วยไม้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้เก่าที่นำมาใช้ใหม่ เพื่อไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ หลังคาบ้านมุงด้วยหญ้าคาโดยกรรมวิธีพื้นถิ่นอันเป็นภูมิปัญญาของชนพื้นเมืองภาคเหนือ ผนังภายนอกของบ้านพัก ก็ได้นำเทคนิคการทำผิวสัมผัสของซิเมนต์ผสมดินมาใช้ เกิดเป็นพื้นผิวอันผสมกลมกลืนของบรรยากาศธรรมชาติ ให้ภาพรวมที่เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ กิจกรรมสำหรับผู้มาพักผ่อนในโครงการได้เลือกใช้บริการ ตามความชอบของแต่ละท่าน


























ประวัติของเกาะเสม็ดแบบย่อๆ ครับ

ประวัติของเกาะเสม็ดแบบย่อๆนะครับ
เกาะเสม็ดในอดีต เมื่อเกือบร้อยปีก่อนไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ จะมีก้อเพียงชาวบ้านที่ไปตัดต้นเสม็ดมาเผาทำถ่านขายและชาวเลที่ไปทำประมงหาปลาเพียงไม่กี่คน เราคงเคยได้ยินวรรณคดีไทยเรื่อง พระอภัยมณีกันมาเป็นอย่างดี อดีตเมื่อสมัยครั้งนั้นก็มีผู้คนรู้จักเกาะเสม็ด ในนามว่า เกาะแก้วพิสดาร ซึ่งมีความสวยงามมากขนาดที่ท่านกวีเอกของไทย อดที่จะกล่าวถึงไว้ในบทกลอนที่ท่านประพันธ์ไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งการันตีได้ว่าเกาะเสม็ดมีความสวยงาม และด้วยที่เกาะเสม็ดตั้งอยู่ไม่ห่างจากฝั่งเท่าไรนัก จึงมีนักเดินทางมาเยือนเกาะแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย แต่สิ่งหนึ่งที่เกาะแห่งนี้ไม่เคยเปลี่ยนตัวเองเลยตลอดเวลาที่ยาวนาน คือหาดทรายที่ขาวดังแก้วละเอียดและจะมีเสียงเวลาที่เราก้าวเท้าเดินบนหาดทรายและน้ำทะเลที่ใส่ สีครามตัดกับขอบฟ้า ในวันที่แจ่มใสเกาะแห่งนี้จะสวยงามมาก และประทับใจผู้ที่มาเยือนทุกคน ไม่มีวันลืม
เกาะเสม็ดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่ความเจริญยังก้าวมาไม่ถึง

ผมเองยังจำได้สมัยนั้น เกาะแห่งนี้มีความสงบและยังไม่มีนักเดินทางมาท่องเที่ยวมากนัก ท่าเรือข้ามเกาะมีเพียงแห่งเดียวและต้องรอเรือกันนานกว่าจะได้ออก เพียงแค่ให้ได้ค่าน้ำมันเรือก็พอแล้ว เมื่อเรือได้เวลาออกก็ใช้เวลาไม่นาน เพียงครึ่งชั่งโมงเท่านั้น ยังไม่ทันเมาเรือเราก็จะได้เห็นสะพานไม้เก่าๆที่เรียกว่า หน้าด่านที่ๆคนหลายๆคนต้องขึ้นสะพานที่นี่ เพราะหน้าด่านเป็นชุมชนบนเกาะและหากจะเดินทางไปหาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวทับทิมก็สามารถต่อรถสองแถวที่นี่ได้ แต่ถนนคงไม่ต้องพูดถึง มันแสนจะทรมานและอาจทำให้คุณเมารถได้ทั้งๆที่นั่งเรือยังไม่ทันเมา และหากไม่ขึ้นที่สะพานหน้าด่าน แล้วจะเลยไปหาดลุงหวังหรือวงเดือนก็ต้องนั่งเรือต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงอ่าววงเดือนแล้วก็ต้องลงแพที่มีคนสาวเชือกมารับที่เรือ เชือกจะผูกโยงจากหาดกับสายสมอที่ทอดทิ้งไว้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ทรมานไม่แพ้การนั่งรถบนที่หน้าด่าน เพราะถ้าแพลอยลำอยู่นานเพื่อรอผู้โดยสารลงแพให้ครบ มันจะทำให้เมาคลื่นได้ในเวลาไม่กี่นาที
แต่เมื่อมาถึงเกาะแห่งนี้แล้วไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหน ความสวยงาม ความสงบ ที่ได้มาเยือนก็จะติดประทับในใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบลงบนพื้นทรายของเกาะเสม็ด วันที่ฟ้าใสๆ แดดแรงๆ หากไม่มีแว่นกันแดดดีๆสักอัน คงต้องหยีตากันทั้งวัน เพราะแสงแดดจะสะท้อนพื้นทรายที่ขาวมาก จนทำให้เราต้องละสายตายไปมองที่ทะเลที่มีเพียงประกายแสงแดดจะดีกว่า และทุกครั้งที่เราเหยียบพื้นทรายจะมีเสียงเท้าบดกับทรายที่ละเอียดทุกก้าวที่เราเดินไป

ที่พักส่วนใหญ่บนเกาะจะเป็นกระท่อมปลูกด้วยไม้ไผ่มุงด้วยแฝกหรือไม่ก็ใบจาก น้ำที่ใช้อาบก็ได้มาจากบ่อที่ขุดลงไปไม่ลึกนัก ต้องใช้แรงหน่อยกับการชำระร่างกายจากไอเค็มของทะเล ไฟฟ้าที่ใช้อยู่ได้มาจากเครื่องปั่นไฟ ที่จะปั่นในช่วง6โมงเย็นจนถึง5ทุ่ม บางที่ยังไม่มีการปั่นไฟใช้ก็จะมีตะเกียงหรือไม่ก็เทียนไว้คอยให้แสงสว่างในเวลากลางคืน ด้วยที่ไม่มีแสงใดมารบกวนในยามค่ำคืนทำให้ดาวดวงเล็กดวงน้อยได้อวดตัวเองบนท้องฟ้าจนแทบจะล้นท้องฟ้าในคืนเดือนแรมทุกครั้ง
อดีตของเกาะแห่งนี้คงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่การที่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นนั้นย่อมทำให้เกาะนี้เสื่อมความงามลงไปบ้าง และคงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องเที่ยวอย่างมีสำนึก คือไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะลงทะเลหรือหาดทราย อย่าให้เศษแก้วเศษพลาสติกขยะต่างๆปนไปกับหาดทรายขาวๆเลย ช่วยกันรักษาไว้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยๆก็จะคงสภาพไปอีกนาน ไว้ให้พวกเราได้เก็บรูปสวยๆไปไว้ในบันทึกส่วนตัว ดังคำที่ว่า " ฝากไว้เพียงลอยเท้า เก็บไปแค่ภาพถ่าย " แต่สิ่งที่เราต้องเก็บอีกอย่างก็คงเป็นขยะต่างๆที่เราได้ผลิตมันขึ้นระหว่างมาเยือนเกาะแห่งนี้โดยตั้งใจ แค่ไม่ทิ้งชิ้นต่อไป คุณก็มีส่วนช่วยรักษาธรรมชาติของเกาะเสม็ดไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นความสวยงาม ที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้
วันนี้ความเจริญอาจดาหน้าสู่เกาะเสม็ดที่ตามมากับความต้องการของนักท่องเที่ยว แม้กระทั่ง 7-11 ยังมองเห็นอนาคตบนเกาะแห่งนี้ รถสองแถวที่ใหม่สภาพป้ายแดง เรือโดยสารเรือเร็ว เจ็ทสกี แพติดเครื่องยนต์ ถนนหนทางที่ดี ไฟฟ้าและน้ำประปามีให้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่พักที่มีความสบายห้องพักติดเครื่องปรับอากาศพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เราคงห้ามสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ แต่เกาะเสม็ดในวันวานยังอยู่ในความทรงจำของคนจำนวนไม่น้อยเสมอมา

ประวัติของเกาะเสม็ดแบบย่อๆ ครับ

ประวัติของเกาะเสม็ดแบบย่อๆนะครับ
เกาะเสม็ดในอดีต เมื่อเกือบร้อยปีก่อนไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ จะมีก้อเพียงชาวบ้านที่ไปตัดต้นเสม็ดมาเผาทำถ่านขายและชาวเลที่ไปทำประมงหาปลาเพียงไม่กี่คน เราคงเคยได้ยินวรรณคดีไทยเรื่อง พระอภัยมณีกันมาเป็นอย่างดี อดีตเมื่อสมัยครั้งนั้นก็มีผู้คนรู้จักเกาะเสม็ด ในนามว่า เกาะแก้วพิสดาร ซึ่งมีความสวยงามมากขนาดที่ท่านกวีเอกของไทย อดที่จะกล่าวถึงไว้ในบทกลอนที่ท่านประพันธ์ไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งการันตีได้ว่าเกาะเสม็ดมีความสวยงาม และด้วยที่เกาะเสม็ดตั้งอยู่ไม่ห่างจากฝั่งเท่าไรนัก จึงมีนักเดินทางมาเยือนเกาะแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย แต่สิ่งหนึ่งที่เกาะแห่งนี้ไม่เคยเปลี่ยนตัวเองเลยตลอดเวลาที่ยาวนาน คือหาดทรายที่ขาวดังแก้วละเอียดและจะมีเสียงเวลาที่เราก้าวเท้าเดินบนหาดทรายและน้ำทะเลที่ใส่ สีครามตัดกับขอบฟ้า ในวันที่แจ่มใสเกาะแห่งนี้จะสวยงามมาก และประทับใจผู้ที่มาเยือนทุกคน ไม่มีวันลืม
เกาะเสม็ดเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่ความเจริญยังก้าวมาไม่ถึง

ผมเองยังจำได้สมัยนั้น เกาะแห่งนี้มีความสงบและยังไม่มีนักเดินทางมาท่องเที่ยวมากนัก ท่าเรือข้ามเกาะมีเพียงแห่งเดียวและต้องรอเรือกันนานกว่าจะได้ออก เพียงแค่ให้ได้ค่าน้ำมันเรือก็พอแล้ว เมื่อเรือได้เวลาออกก็ใช้เวลาไม่นาน เพียงครึ่งชั่งโมงเท่านั้น ยังไม่ทันเมาเรือเราก็จะได้เห็นสะพานไม้เก่าๆที่เรียกว่า หน้าด่านที่ๆคนหลายๆคนต้องขึ้นสะพานที่นี่ เพราะหน้าด่านเป็นชุมชนบนเกาะและหากจะเดินทางไปหาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวทับทิมก็สามารถต่อรถสองแถวที่นี่ได้ แต่ถนนคงไม่ต้องพูดถึง มันแสนจะทรมานและอาจทำให้คุณเมารถได้ทั้งๆที่นั่งเรือยังไม่ทันเมา และหากไม่ขึ้นที่สะพานหน้าด่าน แล้วจะเลยไปหาดลุงหวังหรือวงเดือนก็ต้องนั่งเรือต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงอ่าววงเดือนแล้วก็ต้องลงแพที่มีคนสาวเชือกมารับที่เรือ เชือกจะผูกโยงจากหาดกับสายสมอที่ทอดทิ้งไว้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ทรมานไม่แพ้การนั่งรถบนที่หน้าด่าน เพราะถ้าแพลอยลำอยู่นานเพื่อรอผู้โดยสารลงแพให้ครบ มันจะทำให้เมาคลื่นได้ในเวลาไม่กี่นาที
แต่เมื่อมาถึงเกาะแห่งนี้แล้วไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหน ความสวยงาม ความสงบ ที่ได้มาเยือนก็จะติดประทับในใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบลงบนพื้นทรายของเกาะเสม็ด วันที่ฟ้าใสๆ แดดแรงๆ หากไม่มีแว่นกันแดดดีๆสักอัน คงต้องหยีตากันทั้งวัน เพราะแสงแดดจะสะท้อนพื้นทรายที่ขาวมาก จนทำให้เราต้องละสายตายไปมองที่ทะเลที่มีเพียงประกายแสงแดดจะดีกว่า และทุกครั้งที่เราเหยียบพื้นทรายจะมีเสียงเท้าบดกับทรายที่ละเอียดทุกก้าวที่เราเดินไป

ที่พักส่วนใหญ่บนเกาะจะเป็นกระท่อมปลูกด้วยไม้ไผ่มุงด้วยแฝกหรือไม่ก็ใบจาก น้ำที่ใช้อาบก็ได้มาจากบ่อที่ขุดลงไปไม่ลึกนัก ต้องใช้แรงหน่อยกับการชำระร่างกายจากไอเค็มของทะเล ไฟฟ้าที่ใช้อยู่ได้มาจากเครื่องปั่นไฟ ที่จะปั่นในช่วง6โมงเย็นจนถึง5ทุ่ม บางที่ยังไม่มีการปั่นไฟใช้ก็จะมีตะเกียงหรือไม่ก็เทียนไว้คอยให้แสงสว่างในเวลากลางคืน ด้วยที่ไม่มีแสงใดมารบกวนในยามค่ำคืนทำให้ดาวดวงเล็กดวงน้อยได้อวดตัวเองบนท้องฟ้าจนแทบจะล้นท้องฟ้าในคืนเดือนแรมทุกครั้ง
อดีตของเกาะแห่งนี้คงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่การที่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นนั้นย่อมทำให้เกาะนี้เสื่อมความงามลงไปบ้าง และคงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องเที่ยวอย่างมีสำนึก คือไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะลงทะเลหรือหาดทราย อย่าให้เศษแก้วเศษพลาสติกขยะต่างๆปนไปกับหาดทรายขาวๆเลย ช่วยกันรักษาไว้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยๆก็จะคงสภาพไปอีกนาน ไว้ให้พวกเราได้เก็บรูปสวยๆไปไว้ในบันทึกส่วนตัว ดังคำที่ว่า " ฝากไว้เพียงลอยเท้า เก็บไปแค่ภาพถ่าย " แต่สิ่งที่เราต้องเก็บอีกอย่างก็คงเป็นขยะต่างๆที่เราได้ผลิตมันขึ้นระหว่างมาเยือนเกาะแห่งนี้โดยตั้งใจ แค่ไม่ทิ้งชิ้นต่อไป คุณก็มีส่วนช่วยรักษาธรรมชาติของเกาะเสม็ดไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นความสวยงาม ที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้
วันนี้ความเจริญอาจดาหน้าสู่เกาะเสม็ดที่ตามมากับความต้องการของนักท่องเที่ยว แม้กระทั่ง 7-11 ยังมองเห็นอนาคตบนเกาะแห่งนี้ รถสองแถวที่ใหม่สภาพป้ายแดง เรือโดยสารเรือเร็ว เจ็ทสกี แพติดเครื่องยนต์ ถนนหนทางที่ดี ไฟฟ้าและน้ำประปามีให้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่พักที่มีความสบายห้องพักติดเครื่องปรับอากาศพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เราคงห้ามสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ แต่เกาะเสม็ดในวันวานยังอยู่ในความทรงจำของคนจำนวนไม่น้อยเสมอมา

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

ถนนคนเดินบางแสน‏ ชลบุรี

ถนนคนเดินบางแสน ชลบุรี

หาดบางแสน อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี 14 กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิท ตรงหลัก กม. 104 เข้าไป 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีถนนตัดเลียบชายหาด ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและที่พัก มีเก้าอี้ผ้าใบสำหรับพักผ่อนรับประทานอาหารใต้ร่มเงาทิวมะพร้าว มีห่วงยางว่ายน้ำ บาบาน่าโบ๊ต จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด

ทุกวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯจึงสามารถมาเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้

การเดินทางจากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-บางแสน ออกจากสถานีขนส่งเอกมัยทุกวัน หรือ ขึ้นรถสายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ลงที่สี่แยกเฉลิมไทยในตัวเมืองชลบุรีแล้วต่อรถสองแถวไปยังหาดบางแสน

ถนนคนเดินบางแสนคึกคัก เด็กและเยาวชนดีใจได้แสดงความสามารถ ประชาชนหวั่นธุรกิจผู้ใหญ่แฝงผลประโยชน์เด็ก ผู้จัดงานแจงคนเยอะดูแลยาก นักสังคมสงเคราะห์ชี้ ไม่ผิดกฎหมายหากเด็กเต็มใจเนื่องจากถนนคนเดินบางแสน กำลังเป็นที่นิยมของเด็กและเยาวชนในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงพื้นบ้าน การเล่นดนตรีไทย หรือการประดิษฐ์ของต่างๆ มาขาย เป็นการเปิดพื้นที่ในการทำกิจกรรมหรือการเปิดหมวก เพื่อส่งเสริมให้เด็กแสดงความสามารถและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แต่มีคนบางกลุ่มที่แอบแฝงใช้เด็กเป็นช่องทางในการหารายได้และสร้างผล ประโยชน์เข้าตนเอง

ถนนคนเดินบางแสน

เทศบาลเมืองแสนสุข ได้จัดโครงการถนนคนเดินบางแสน ขึ้นทุกวันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 17.30 – 23.00 น.บริเวณแหลมแท่น บางแสน ชลบุรี
ภายในงานท่านจะได้พบกับ สินค้าแฮนด์เมค
สินค้าแฟชั่นที่ทันสมัย
งานศิลปะจากนักเรียน
นักศึกษา
ผลิตภัณฑ์จากโรงงานและอาหารเลิศรส
พร้อมทั้งชมการแสดงโชว์ต่างๆบนท้องถนนจาก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และความบันเทิงบนเวทีจากตลกและศิลปิน นักร้องชื่อดัง
ร่วมสัมผัสกับงานถนนคนเดินบางแสน ได้ในทุกๆวันศุกร์และวันเสาร์นะครับ
























อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อ. น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์

อยู่ในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสาน จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธาร มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง มีเนื้อที่ประมาณ 966 ตารางกิโลเมตร หรือ 603,750 ไร่ ได้ประกาศจัดตั้งเป็น "อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว" เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2515






ลักษณะภูมิประเทศ

ป่าน้ำหนาวเป็นเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือสภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงทอดยาวผ่านจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะภูผาจิต ภูกุ่มข้าว และเทือกเขาโดยรอบประกอบขึ้นเป็นป่าต้นน้ำลำธาร ต้นกำเนิดของลำธารสายยาว เช่น แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย ห้วยขอนแก่น ห้วย น้ำเขิญ ซึ่งไหลลงสู่เขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนจุฬาภรณ์














ลักษณะภูมิอากาศ

โดยทั่วไปอากาศหนาวเย็นในตอนดึกและตอนเช้า ส่วนใหญ่ตอนกลางวันอากาศเย็นสบาย จึงกล่าวได้ว่า อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 25 องศาเซลเซียส ในฤดูฝนจะมีฝนตกชุกระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนใหญ่ฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นมาก จนบางครั้งน้ำค้างจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในเดือนธันวาคมและมกราคม ซึ่งในบางปีอุณหภูมิจะลดต่ำถึงศูนย์องศาเซลเซียส

พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า

ป่าน้ำหนาวเป็นป่าไม้ผืนใหญ่ติดต่อกัน ประกอบด้วยป่าหลายชนิด คือ ป่าเต็งรัง หรือ ป่าแดง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ และทุ่งหญ้า มีพรรณไม้มีค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น ไม้ประดู่ แดง มะค่า ชิงชัน เต็ง รัง ยาง ตะเคียน สนเขา ก่อ สมุนไพร และกล้วยไม้ต่าง ๆ เนื่องจากป่าส่วนหนึ่งเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้าและป่าดิบ มีดินโปร่งและน้ำไหลผ่านตลอดปี จึงทำให้ป่านี้มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม เช่น ช้าง กระทิง วัวแดง กวาง เก้ง หมีควาย หมีคน เลียงผา หมาป่า กระจง เม่น หมูป่า และกระต่ายป่า สำหรับช้างป่านั้นมีอยู่ทั่วไป ซึ่งเราจะเห็นกองมูลช้างที่ถ่ายไว้ริมทางหลวงอยู่เสมอ นอกจากนี้ป่าน้ำหนาวยังมีเสือโคร่ง เสือดาว ค่าง

นอกจากนี้ ยังมีนกชนิดต่าง ๆ มากกว่า 200 ชนิด ตามทางเดินในป่าจะพบนกสีสวย ๆ อยู่เสมอ เช่น นกแก้ว นกขุนแผน นกหก นกพญาปากกว้าง นกเดินดง นกแต้วแร้ว นกโพระดก นกหัวขวาน นกเงือก นกกระจ้อย นกกินแมลงชนิดต่าง ๆ ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ป่า เป็นต้น และยังมีความหลากหลายของผีเสื้อมากกว่า 340 ชนิด


สินค้ารวม